กรมส่งเสริมสหกรณ์ เตรียมปฏิวัติการแก้หนี้สมาชิกสหกรณ์กว่า 1.7 แสนล้านบาท เล็งหารือธกส. พักหนี้สมาชิก 3 ปี ให้ทุนสมาชิกกู้สร้างรายได้ เงินคล่องมือค่อยเริ่มชำระหนี้ หลังธปท.พบถ้าไม่แก้พาลงเหวทั้งระบบ

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.62 นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า เตรียมดันโครงการส่งเสริมการเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ เสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับสมาชิกสหกรณ์ให้มากขึ้น เพิ่มเติมจากรายได้จากปลูกพืชชนิดเดียวหรือรอรายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิตปีละเพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่พอจ่าย กระทบต่อการชำระหนี้กับสหกรณ์หรือสถาบันการเงิน โดยโครงการดังกล่าวให้แต่ละสหกรณ์ไปคิดว่าต้องการทำอาชีพอะไร เพื่อที่จะได้ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ จากนั้นกรมจะช่วยเหลือในเรื่องทุนให้กับสมาชิกผ่านสหกรณ์

"ทั้งนี้เป็นผลจากการหารือระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ที่พบว่า ลูกค้าธกส.จะกู้เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ หรือกู้สหกรณ์มาชำระธกส.และปรับสัญญาใหม่ ซึ่งกรณีนี้มีรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) พบว่า กลุ่ม เอส 3 หรือกลุ่มสหกรณ์ เกษตรกร ไม่ได้ชำระจริง แต่เป็นการกู้เงินจากที่อื่น เพื่อนำเงินมาหมุนชำระหนี้ธกส. เพื่อขอปรับบัญชีเป็นการเพิ่มหนี้แบบพอกหางหมู ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางธปท. กังวลว่าอนาคตธกส.จะมีปัญหา ฉะนั้นธกส.พร้อมจะช่วยสหกรณ์แก้ไขอย่างจริงจัง เพราะมาตรการพักหนี้ที่ผ่านมาพบว่าเกษตรกรไม่ได้มีการสร้างายได้เพิ่ม หากไม่ช่วยกันแก้ไขเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ใน 3-4 ปีทั้งธกส.และสหกรณ์มีปัญหาอย่างแน่นอน"นายพิเชษฐ์กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่า สหกรณ์ส่วนมากไม่ค่อยทำธุรกิจสร้างรายได้ แต่ไปเน้นในเรื่องกิจการปล่อยกู้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสหกรณ์ไม่ค่อยทำบทบาทสร้างรายได้ให้สมาชิก โครงการนี้จะมาตอบโจทย์ ซึ่งกรมจะใช้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.) ปล่อยกู้สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ โดยให้สหกรณ์ทำแผนงานโครงการเสนอเข้ามา เพื่อนำเงินไปปล่อยให้สมาชิกสหกรณ์กู้ ไม่เกิน 20,000 บาทต่อรายอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 เพื่อให้สหกรณ์ปล่อยกู้กับสมาชิก นำไปสร้างอาชีพใหม่เพื่อสร้างรายได้และมีเงินส่งชำระหนี้คืนสหกรณ์