ประวัติสหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด

           จากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ ในปี พ.ศ. 2519 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ได้ทำการก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นที่บ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ปิดกั้นแม่น้ำแควใหญ่ทำให้เกิดบริเวณน้ำท่วม ทางราชการและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงได้จัดสรรที่ทำกินให้ราษฎรใหม่ โดยให้ครอบครัวละ 20 ไร่ แบ่งออกเป็นที่อาศัย 2 ไร่ และที่ทำกิน 18 ไร่ ซึ่งแตกต่างจากสมัยที่ยังไม่อพยพราษฎรมีที่ทำกินมากกว่า จึงประสบปัญหาเรื่องผลผลิตและรายได้

         ดังนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้คำนึงถึงการแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยการใช้วิธีการทางสหกรณ์ ได้จัดตั้งสหกรณ์ขึ้น คือ สหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณรจำกัด จดทะเบียนเป็นสหกรณ์การเกษตร เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2519 และเริ่มดำเนินการธุรกิจเมื่อเดือนเมษายน 2520 สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนในด้านการเงินทุนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นเงิน 10 ล้านบาท โดยวิธีผ่านกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้ค้ำประกันและควบคุมการใช้เงินจำนวนนี้ และให้ทางสหกรณ์ ส่งคืนเงินภายใน 10 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับทางสหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด สหกรณ์ ฯ ได้นำเงินมาใช้จำนวน 5,740,000 บาท และใช้คืนภายในปี 2530 จนหมดสิ้น สหกรณ์ฯ มีข้อตกลงกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะต้องให้สมาชิกสหกรณ์ฯ ที่อพยพจากเขตน้ำท่วมและอยู่ในที่จัดสรร โดยคิดดอกเบี้ยจากสมาชิกร้อยละ 6 บาท ต่อปี

        ปัจจุบัน สหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด ตั้งอยู่ที่โครงการก่อสร้างหมู่บ้านอพยพบ้านเจ้าเณร เลขที่ 82 หมู่ที่ 2 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มีสมาชิกทั้งสิ้น 760 คน และมีทุนดำเนินงาน 67 ล้านบาท มีการดำเนินธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจำหน่ายสินค้า โดยสหกรณ์จัดหาสินค้าตามความต้องการของสมาชิกมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป และมีปั๊มน้ำมันบริการสมาชิกด้วย นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจรวบรวมผลผลิต ซึ่งสหกรณ์ได้รวบรวมผลผลิตจากสมาชิกโดยให้ราคาที่เป็นธรรม และมีตาชั่งที่ได้มาตรฐาน

      จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สหกรณ์มีผลกำไรที่สามารถปันผลเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิกทุกปี มีการช่วยเหลือสมาชิกในด้านเงินลงทุน และวัสดุอุปกรณ์ทำการเกษตร มีการส่งเสริมและให้ความรู้แก่สมาชิก มีการจัดประชุมกลุ่มอย่างต่อเนื่อง บางกลุ่มมีการประชุมมากกว่าปีละ 2 ครั้ง ทำให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสหกรณ์ จึงทำให้สมาชิกมีความเชื่อมั่นว่า สหกรณ์มีความเข้มแข็ง สามารถเป็นที่พึ่งของสมาชิกได้อย่างแท้จริง

       หัวใจของความเป็นสหกรณ์ที่ส่งผลให้ของสหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด ประสบความสำเร็จคือ สมาชิก คณะกรรมการดำเนินงานและฝ่ายจัดการที่ทุกคนทุกฝ่าย ร่วมแรงร่วมใจ รู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง ช่วยเหลือเกื้อกูลและขับเคลื่อนสหกรณ์แห่งนี้ให้เดินไปสู่เป้าหมายที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสมาชิกทุกคนเพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและชุมชนเป็นที่ตั้ง

      ตลอดระยะเวลา 39 ปีที่ผ่านมาที่สหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด ได้ดำเนินงานกิจการผ่านอุปสรรคต่างๆ จากสมาชิกรุ่นหนึ่งสู่สมาชิกอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยความร่วมมือร่วมใจ จึงทำให้สหกรณ์แห่งนี้ข้ามผ่านอุปสรรคสามารถพัฒนามาเป็นศูนย์การเรียนรู้การสหกรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้เป็นแหล่งให้ผู้มาศึกษาดูงาน ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นำไปประยุกต์ใช้

       จากประวัติทั้งหมดที่ได้กล่าวมาในข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า สหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นหลังจากได้มีการอพยพย้ายถิ่นฐานของชาวบ้าน เนื่องจากการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ในปี พ.ศ. 2519 โดยทางการไฟฟ้าได้จัดสรรพื้นที่ไว้ให้ และมอบเงินให้มาเป็นทุนโดยผ่านกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้ควบคุม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านบาท และกำหนดระยะเวลาในการใช้คืนไม่เกิน 10 ปี หลังจากนั้นสหกรณ์การเกษตรบ้านเจ้าเณร จำกัด ได้มีการพัฒนาและขับเคลื่อนองค์กรจนถึงปัจจุบันนี้