ความเป็นมาของสหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด

 

            สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด  เป็นสหกรณ์ที่จัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในท้องที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย  เป็นสหกรณ์ประเภท” หาทุน”   ได้รับการจดทะเบียนครั้งแรกจำนวน     2 สหกรณ์   คือ  สหกรณ์บ้านด้าย  ไม่จำกัด  และ สหกรณ์ศรีบุญยืน ไม่จำกัด   มีสมาชิกแรกตั้งจำนวน  29  คน  และมีทุนดำเนินงานครั้งแรก     23,750.00  บาท(สองหมื่นสามพันเจ็ดร้อยห้าสิบบาทถ้วน)   และต่อมาได้มีการจัดตั้งสหกรณ์เพิ่มขึ้นอีก  12  สหกรณ์  เมื่อมีพระราชบัญญัติให้สหกรณ์ชนิดเดียวกันตั้งแต่สองสหกรณ์ขึ้นไปอาจควบเข้ากันได้ ซึ่งได้ประกาศใช้แล้ว  สหกรณ์ประเภทหาทุนจำนวน 14  สหกรณ์   ในอำเภอเชียงแสน  ได้มีมติควบเข้ากันกับสหกรณ์อื่นในอำเภอเดียวกันเป็น “ สหกรณ์การเกษตรชนิดไม่จำกัด”  คือ สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน ไม่จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่  14  พฤศจิกายน  2514  จากสหกรณ์หาทุน   ที่ควบเข้ากัน จำนวน  14 สหกรณ์  มีฐานะเดิมเมื่อวันที่ควบเข้ากัน ต่อมาสหกรณ์ได้มีมติให้เปลี่ยนชนิดสหกรณ์ “จำกัด “ และนายทะเบียนสหกรณ์  ได้รับจดทะเบียน  เมื่อวันที่  1  มีนาคม  2515(  ปัจจุบันมีสมาชิกจำนวนทั้งสิ้น  3212 คน  ทุนเรือนหุ้น 72,664,750.00  บาท)

            นับตั้งแต่การดำเนินการเป็นต้นมา  สหกรณ์ประสบปัญหาในด้านสมาชิกสหกรณ์กู้เงินจากสหกรณ์ไปและไม่สามารถส่งชำระหนี้คืนให้แก่สหกรณ์ได้  ดอกเบี้ยค้างชำระ เป็นเรื้อรังเป็นเวลานาน ทางสหกรณ์ได้ดำเนินการแก้ไขหนี้สินของสมาชิกมาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีการระดมทุนจากสมาชิกให้สมาชิกถือหุ้นเพิ่มตลอดจนระดมเงินรับฝากจากสมาชิก   เพื่อเป็นทุนในการจัดซื้อที่ดินและสร้างที่ทำการของสหกรณ์เอง  โดยคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์  ได้ตกลงซื้อที่ดิน บริเวณบ้านป่าสักน้อย  ตำบลป่าสัก  อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายและใช้เป็นที่ตั้งในการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์มาจนถึงปัจจุบัน   

            ในปี  พ.ศ.  2526  สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด ถูกจัดเป็นสหกรณ์ที่อ่อนแอที่ต้องได้ความช่วยเหลือจากรัฐบาล นั้นคือ  สหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างสหกรณ์การเกษตร  โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์  ให้มีการจัดจ้าง  ผู้จัดการ  และพนักงานสหกรณ์ในตำแหน่งต่างๆดังนี้    พนักงานสินเชื่อ  พนักงานการตลาด  พนักงานบัญชี  อย่างละ 1 ตำแหน่ง โดยทางกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบในด้านการจ่ายเงินเดือนให้   ผู้จัดการและพนักงานสหกรณ์ต่างๆที่ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดจ้าง จะถูกให้เข้ารับการอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ เพื่อแก้ไขให้ทางสหกรณ์สามารถบริการในด้านต่างๆแก่สมาชิก  และได้มีการปรับปรุงกิจการของสหกรณ์ในหลายๆด้าน จน สหกรณ์ดำเนินธุรกิจ สามารถให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกในหลายๆด้าน และมีผลให้สหกรณ์มีผลกำไรจากการดำเนินงาน สามารถจ่ายเงินปันผลคืนแก่สมาชิกได้ที่สุด

            ในปี  พ.ศ.  2537   สหกรณ์ได้ดำเนินการปรับปรุงธุรกิจสหกรณ์ โดยได้ดำเนินการสร้างสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงของสหกรณ์  โดยใช้เครื่องหมายการค้าในนาม”คอสโม่ออยล์”  และสร้างร้านค้าจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นการบริการแก่สมาชิก และเป็นการเสริมธุรกิจของสหกรณ์ในเรื่องการจัดหาสินค้ามาจำหน่าย  ประกอบกับในปีดังกล่าวทางสหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด  ได้รับงบสนับสนุนในการจัดสร้างอุปกรณ์ทางการตลาดจำนวน   2,719,339.00  บาท(สองล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นเก้าพันสามร้อยสามสิบเก้าบาทถ้วน) ในการจัดสร้างตลาดกลางขึ้น  ประกอบไปด้วย

  1.  ลานตากพืช  3,290  ตารางเมตร     มูลค่า     765,564.00      บาท
  2.  จุดตรวจสอบคุณภาพข้าว               มูลค่า       17,967.00      บาท
  3.  ฉาง   500  เกวียน                         มูลค่า   1,044,683.00     บาท

  4  ถนน  คสล. 5 x 60  เมตร                 มูลค่า     103,333.00     บาท

  1.  บ่อเครื่องชั่ง  และเครื่องชั่ง            มูลค่า      603,043.00     บาท
  2. โรงคลุมเครื่องชั่ง                           มูลค่า      111,624.00   บาท    

                        จากการที่ทางสหกรณ์ได้รับงบสนับสนุนอุปกรณ์ดังกล่าว  ทำให้ทางสหกรณ์สามารถ ดำเนินงานเกี่ยวกับในการรวบรวมผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรเพิ่มขึ้น

            ในปี  พ.ศ.  2538  ทางสหกรณ์ ได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมสหกรณ์  ให้เข้าร่วมโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ โดยได้รับงบสนับสนุนประมาณ 13 ล้านบาท  ในการจัดสร้างโรงปรับปรุงเมล็ดพันธุ์  และโรงเก็บเมล็ดพันธุ์   ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ก.ข. 6, ข้าวเจ้า  กข. 15, และเจ้าหอมมะลิ 105  โดยผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพจำหน่ายให้แก่สมาชิกและเกษตรกรทั่วไป  โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ รับภาระชดเชยส่วนต่างราคาทุนให้กับสหกรณ์ ขายเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพและราคาถูกแก่สมาชิกและเกษตรกร   ซึ่งสหกรณ์ดำเนินการผลิตเมล็ดพันธุ์ เรื่อย มาจนถึงปัจจุบันและถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของสหกรณ์

           

            ใน ปี  พ.ศ.  2542  สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน  จำกัด  ได้รับงบสนับสนุน  ในการจัดสร้างโรงสีขนาด  40  ตัน  งบประมาณ  8,775,900.00  บาท  และทางสหกรณ์ได้ทำการปรับปรุงโรงสี  เพื่อให้ข้าวสารและผลพลอยได้ที่ออกมามีคุณภาพโดยใช้งบประมาณในการปรับปรุงจำนวน  5,750,000.00  บาทเพื่อติดตั้งเครื่องคัดแยกยิงสี และเครื่องขัดขาว ตลอดจนตระแกรงคัดแยก เพื่อปรับปรุงโรงสีกำลังการผลิต จาก  40  ตันต่อวันเป็น  60  ตันต่อวัน  และผลิตข้าวสารออกจำหน่ายในนามข้าว  “ตราถุงทอง “

                        ในปี   พ.ศ.  2548   ทางสหกรณ์การเกษตรเชียงแสน  จำกัด  ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงผลิตน้ำดื่ม  ในชื่อ “น้ำดื่มคิวซี”  โดยมีกระบวนการผลิตแบบซอฟเทนเนอร์และโอโซน จำหน่ายให้แก่สมาชิกสหกรณ์และบุคคลทั่วไป

                        ในปี  2553  ทางสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการรวบรวมข้าวเปลือกของสมาชิกสหกรณ์เพื่อชลอราคาตลอดจนนำผลผลิตข้าวแปรรูปโรงสี จึงได้ก่อสร้างโรงคุมเก็บข้าวเปลือกจำนวน 2 หลัง  มูลค่า  11,000,000.00 บาท    เพื่อเก็บข้าวเปลือกของสมาชิกสหกรณ์  และจากสภาพในปัจจุบันพฤติกรรมการการเก็บเกี่ยวของสมาชิกเปลี่ยนไป  มีการใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนกันมากขึ้น  จึงทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นไปอย่างรวดเร็ว  มีการใช้เครื่องเกี่ยวข้าวเข้ามาทดแทนการใช้แรงงานคน จึงทำให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวสดแล้วจำหน่ายเป็นข้าวสด  โดยไม่ลดความชื้นในปี  พ.ศ.  2554  จึงทำให้ทางสหกรณ์ ต้องปรับวิธีการรวบรวมข้าวเปลือกใหม่ โดย

ทางสหกรณ์ ได้ก่อสร้างเครื่องอบลดความชื้น ขนาด 100 ตันต่อวัน เพื่อรองรับในการรับซื้อข้าวเปลือกสด จากสมาชิก เพื่อลดความชื้นแล้วนำแปรรูปในโรงสีของสหกรณ์  โรงอบ ก่อสร้างในมูลค่า  14,000,000.00 บาท(สิบสี่ล้านบาท) ก่อสร้างโดยบริษัทเจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด

            พื้นที่การดำเนินงานของ สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน  จำกัด

            1          ตำบลเวียง 

            2          ตำบลโยนก             

            3          ตำบลศรีดอนมูล       

            4          ตำบลป่าสัก             

            5          ตำบลแม่เงิน            

            6          ตำบลบ้านแซว