แผนผังศูนย์เรียนรู้การสหกรณ์
การบริหารจัดการ เปํนปัจจัยสำคัญยิ่งในการในการนำพาสหกรณ์ไปในทิศทางที่จะบรรสุตามวัตถุประสงค์ ที่ได้กำหนดเป็นวิสัยทัศน์ของสหกรณ์
ผู้นำของสหกรณ์ ตลอดระยะเวลา กว่า 35 ปี สหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด มีคณะกรรมการดำเนินงาน ที่มีความเสียสละ มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพของสมาชิกในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านการผลิต การตลาด และการเงิน โดยมุ่งประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ที่มาของผู้นำสหกรณ์ สหกรณ์ มีการระดมความคิดเห็นจากสมาชิกเพื่อการปรับปรุงพัฒนาการบริหารงาน และเห็นว่า วิธีการที่จะพัฒนาสหกรณ์ให้สอดคล้องไปตามความต้องการของสมาชิกได้ สมาชิกต้องได้ัรับข้อมลข่าวสารที่ชัดเจน และรวดเร็ว ทั้งยังสามารถส่งผ่านข้อิดเห็นรวมทั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ กลับมายังสหกรณ์ได้โดยตรง จึงดำเนินการดังนี้
1) แบ่งสมาชิกออกเป็น 7 กลุ่ม ตามสัดส่วนแห่งอาชีพ โดยแต่ละกลุ่ม มีคณะกรรมการบริหารกลุ่ม มีการประชุมไม่น้อยกว่า ปีละ 3 ครั้ง และแต่งตั้งผู้แทน 2 คนเป็นกรรมการดำเนินการของสหกรณ์
2) จัดพิมพ์วารสาร ถึงสมาชิก 2 เดือน/ฉบับ เพื่อรายงานความเคลื่อนไหว และสาระที่จะเป็นประโยชน์แก่สมาชิก
3) จัดทำเว็บไซด์ และโซเชียล มีเดีย เพื่อติดต่อกลุ่มสมาชิกที่สนใจ
การศึกษาอบรม คณะกรรมการดำเนินการ ผู้ตรวจสอบกิจการ กรรมการกลุ่ม ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร จะต้องมีการประชุม 3 ระดับ คือ การประชุมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน การประชุมชี้แจ้ง สิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบ ในแต่ละกลุ่มบุคคลที่ได้รับมอบหมาย และการประชุมจัดทำแผนงานของสหกรณ์ รวมทั้งการศึกษาดูงาน ตามความเหมาะสม
การแบ่งความรับผิดชอบ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพิ่มพูนศักยภาพในการบริหารงาน คณะกรรมการแต่ละชุดจะมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ ตามความถนัด อย่างเหมาะสม และให้มีการถ่ายทอดงานระหว่างกัน
จากการดำเนินการดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารของสหกรณ์ในแต่ละสมัย สามารถต่อยอดการบริหารงาได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ
ตลาดปลา เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าสตว์น้ำของสมาชิกและชาวประมงทั่วไป แต่กว่าที่จะมาเป็น "ตลาดปลาสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด อย่างทุกวันนี้ ต้องผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งความร่วมมือร่วมใจของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อให้ตลาดปลาแห่งนี้ เป็นของชาวประมงและเพื่อชาวประมงอย่างแท้จริง
ความเป็นมา
ปี 2524 | สหกรณ์ ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก เพื่อลดปัญหาในการนำปลาไปขายต่างจังหวัด และกำหนดราคาเองไม่ได้ โดยมุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจให้เป็นทางเลือกหนึ่งของสมาชิก แต่ดำเนินการได้เพียง 7 เดือนก็ต้องยุติกิจการ จากนั้นคณะกรรมการก็ได้ศึกษาปัญหา เพื่อคิดหาแนวทางปรับปรุง ให้กิจกานี้ ดำเนินการได้อย่างยั่งยืน |
ปี 2530 | ผลการวิจัยของสถาบันศศินทร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสิ่งที่ช่วยให้หลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนส่งเสริม "โครงการสะพานปลา ในจังหวัดสมุทรสงคราม" โดย นางบุญล้อม ลิ้ม ประเสริฐ เจ้าของคานเรือทวีชัย ได้บริจาคที่ดิน 3 ไร่ เพื่ารบริหารส่วนอองกจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ก่อสร้างอาคารตลาดปลา และสหกรร์ประมงแม่กลอง จำกัด ก็ได้เช่าอาคาดังกล่าวมาดำเนินการ |
ปี 2532 | วันที่ 5 พฤษภาคม สหกรณ์จัดพิธีเปิดตลาดปลา โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี และดำเนินการให้บริกาตลาดปลาในวันรุ่งขึ้นเป็นต้นมา ในการนี้ สหกรณ์ได้อนุญาตให้สมาชิกที่มีความสนใจ เข้ามาทำหน้าที่แพปลา เพื่อเป็นผู้จัดการขขายปลาของสมาชิก โดยสหกรณ์จัดการอำนวยความสะดวกด้าน ที่จอดรถ ภาชนะ สถานที่เก็บของ น้ำแข็ง และห้องสุขา โดยระบบการประมูล |
ปี 2538 | เดือนตุลาคม กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ ให้การส่งเสริมสนับสนุนให้ตลาดปลา เป็น "ตลาดกลางสินค้าสัตว์น้ำ จังหวัดสมุทรสงคราม ในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ |
ปี 2539 | การให้บริการตลาดปลา มีความก้าวหน้ามาก ทำให้สถานที่คับแคบ สหกรณ์ต้องตัดสินใจหาซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างตลาดปลาใหม่ ให้เพียงพอ ซึ่งในการนี้ สหกรณ์ได้สะสมเงินไว้ทุกปี จนมีเงินพอเพียง |
ปี 2540 | สหกรณ์ก่อสร้างอาคารตลาดปลาแห่งใหม่ โดยการกู้ยืมเงินจากกรมการค้าภายใน และกรมส่งเสริมสหกรณ์ แห่งละ 10 ล้านบาท อีกส่วนหน่งก็รับบริจาคจากแพปลา ตามสัดส่วนของพื้นที่เช่าที่มีอยู่เดิม และที่จะได้รับใหม่ |
ปี 2541 |
จัดพิธิเปิดตลาดปลาของสหกรร์อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น เป็นประธาน ตลาดปลาแห่งนี้ มีสถานที่กว้างขวาง รองรับรถปลาได้กว่า 100 คัน มีที่จอดรถ และสถานที่ปฏิบัติงานอืนอีกมากมาย มีโรงอาหาร ห้องสุขา และ สำนักงานให้เช่า ทำให้ชาวประมง เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ส่วนอาคารเดิม สหกรณ์ก็ยังคงเช่าอยู่ โดยปรับเปลี่ยนเป็นตลาดปลาน้ำจืด ตลาดสด และจำหน่ายอาหารสำหรับคนงาน |
ปี 2547 |
มีการขยายอาคารและพื่้นที่ด้านหลัง โดยใช้เงินบริจาคสำหรับพื้นที่ขายปลาส่วนที่เพิ่่มขึ้น มีการจัดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ระบบสุขอนามัย และระบบการสุ่มตรวจเครื่องชั่ง และ สารฟอร์มาลีน |
ปี 2553 | มีการปรับปรุงตลาดปลาเพื่อรองรับการปฏิบัตืตามกฏบัตของสหภาพยุโรป ในการป้องกันการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ขาดการควบคุม (IUU Fishing) |
ปี 2555 | มีการขยายตลาดปลาอีกครั้งพร้อมกันนี้ ยังมีการสนับสนุน "โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แ บบติดตั้งบนหลังคา" โดยติดตั้งบนหลังคาอาคารตลาดปลา |
ตลาดปลา ยังคงเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าสัตว์น้ำ และเป็นศูนย์กลางความคิด ในการที่จะพํฒนางานของสหกรณ์ให้สอดคล้อง เพื่อช่วยเหลือสมาชิกในการประกอบ
อาชีพ ต่อไป
แสงอาทิตย์ เป็นต้นกำเนิดของวัฏจักรของสิ่งมีชีวิตในโลก ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำและธาตุต่าง ๆ เช่น คาร์บอน พลังงานแสงอาทิตย์จัดเป็นหนึ่งในพลังงานทดแทน หรือ พลังงานหมุนเวียนที่มีศักยภาพสูง ปราศจากมลพิษ อีกทั้งเกิดใหม่ได้ไม่สิ้นสุด และยังเป็นต้นกำเนิดของพลังงานน้ำ (จากการทำให้น้ำกลายเป็นไอและลอยตัวขึ้นสูง พลังงานน้ำที่ตกกลับลงมาถูกนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า) เป็นต้นกำเนิดของพลังงานเคมีในอาหาร (พืชสังเคราะห์แสง เปลี่ยนแร่ธาตุให้เป็นแป้งและน้ำตาล ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่มนุษย์และสัตว์ชนิดต่าง ๆ) เป็นต้นกำเนิดของพลังงานลม (ทำให้เกิดความกดอากาศและทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของอากาศ) และเป็นต้นกำเนิด พลังงานคลื่น (ทำให้น้ำขึ้น-ลง)
หลังจากประสบกับปัญหาน้ำมันแพง ใน พ.ศ. 2516 และ 2522 กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจึงหันมาให้ความสนใจในพลังงานแสงอาทิตย์และเริ่มมีการพัฒนาอย่างจริงจังมากขึ้น หลังจากการตีพิมพ์ข้อมูลโลกร้อนของ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์มีปริมาณเพิ่มขี้น 10-20% ทุกปี ในประเทศไทยการติดตั้งเพิ่มขึ้นอีกมากเริ่มจากปี 2553 โดยเริ่มมีการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2526 จนถึงปี 2553 มียอดติดตั้งรวม 100.39 MW แจกจ่ายไฟฟ้า(เฉพาะเชื่อมกับสายส่งของ กฟผ แล้ว) ทั้งปี 2553 รวม 21.6 GWh หรือ 0.0134% ของปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด 161,350 GWh โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผลิตไฟฟ้าได้ 2.2 GWh ผู้ผลิตรายย่อย 19.4 GWh[3]