ประวัติสหกรณ์
ทุ่งลิปะสะโง ตำบลลิปะสะโง อำเภอหนองจิก มีเนื้อที่ 15,845 ไร่ พื้นที่ส่วนนี้มักประสบปัญหาน้ำท่วมขังมีผลทำให้ราษฎรไม่สามารถทำการเกษตรในพื้นที่นี้ได้ ซึ่ง ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรที่ตำบลนี้ และได้พระราชทานคำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่และราษฎรให้ใช้ระบบชลประทานช่วยในการระบายน้ำแล้วจัดที่ดินแปลงนี้ให้ราษฎรได้เข้าทำประโยชน์ในรูปหมู่บ้านสหกรณ์ โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ ดังนี้
1. ใช้ระบบชลประทานช่วยระบายน้ำในฤดูฝน แล้วส่งน้ำเข้าช่วยในการเกษตรในฤดูแล้ง
2. จัดพื้นที่ทั้งหมดเป็น 3 ชุมชน
3. แบ่งพื้นที่นาเป็น 3 โซน ที่สูงใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ที่ราบใช้ในการทำนา ที่ลุ่มน้ำให้ส่งเสริม การเลี้ยงปลา
4. จัดชุมชนแต่ละแห่งให้เป็นสัดส่วน กล่าวคือ ชุมชนที่อยู่อาศัยประกอบบ้านเรือนราษฎรและ สถานบริการต่าง ๆ เช่น ศาลาประชาคม โรงเรียน สถานีอนามัย ร้านค้า ที่ทำการต่าง ๆ รวมทั้งสงวนพื้นที่บางส่วนไว้ เพื่อการเจริญเติบโตของชุมชนในอนาคต ส่วนพื้นที่ที่จะใช้ประกอบอาชีพของแต่ละครอบครัวให้แยกออกไปอยู่ในที่แห่งเดียวกันเป็นสัดส่วนนอกชุมชนอยู่อาศัย
5. ให้มีคณะกรรมการกลางของหมู่บ้านเป็นผู้ปกครองดูแลและจัดระเบียบชุมชนเอง โดยเฉพาะโฉนดของเนื้อที่แต่ละแปลงให้อยู่ในความดูแลของกรรมการหมู่บ้าน การดำเนินงานดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของราชการคอยดูแลและให้คำแนะนำ
6. ให้ราษฎรที่อยู่ในตำบลนี้และพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความเดือดร้อนในเรื่องที่ดินที่อยู่อาศัย การประกอบอาชีพ ได้เข้าอยู่และทำกินไปชั่วลูกหลาน โดยไม่ให้กรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดิน และไม่ให้มีการแบ่งที่ดินแก่ผู้สืบสกุลเป็นแปลงย่อยๆ
จังหวัดปัตตานีได้ดำเนินการโครงการ "จัดที่ดินหมู่บ้านพระราชดำริทุ่งลิปะสะโง" อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งกระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติได้อนุมัติโครงการ พร้อมกับขอความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยงข้องเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการตามหน้าที่ เพื่อสนองพระราชดำริ จัดที่ดินทำกินให้ราษฎรเข้ามาเป็นสมาชิก และให้มีที่ดินทำกินครอบครัวละ ๑๕ ไร่ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย ๑ ไร่ เป็นที่ประกอบอาชีพการเกษตร จำนวน ๑๔ ไร่ พร้อมกับจัดตั้งหมู่บ้านขึ้น ๓ หมู่บ้าน ซึ่งมีคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้วางนโยบายในการดำเนินงานกิจกรรรมของหมู่บ้าน จัดหมู่บ้านสหกรณ์ โดยได้มีการจัดตั้ง “สหกรณ์การเกษตรทุ่งลิปะสะโง จำกัด” จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 มีสมาชิก แรกตั้ง 164 คน มีทุนเรือนหุ้น 8,200 บาท ผลการดำเนินงาน ณ วันสิ้นปีทางบัญชี 30 มิถุนายน 2557 มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 22,346,880.69 บาท เป็นทุนภายใน 12,765,542.30 บาท หรือร้อยละ 57.12 ทุนจากภายนอก 9,581,338.39 บาท หรือร้อยละ 42.88 ทุนเรือนหุ้น 3,440,160 บาท เงินรับฝาก 6,641,761.89 บาท มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 655,754.05 บาท ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 มีสมาชิก 859 คน ทุนเรือนหุ้น 3,974,530 บาท มีคณะกรรมการดำเนินการ 12 คน
การดำเนินธุรกิจสหกรณ์
ด้านสินเชื่อ
- เงินกู้ระยะสั้น
- เงินกู้ระยะปานกลาง
- เงินกู้ส่งเสริมอาชีพ
ด้านเงินรับฝาก
- เงินรับฝากสัจจะออมทรัพย์
- เงินรับฝากออมทรัพย์ทั่วไป
- เงินรับฝากออมทรัพย์พิเศษ (ระยะเวลา 5 ปี)
- โครงการออมทรัพย์พิเศษ วันละ 5 บาท “เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ครบ 60 พรรษา”
ด้านจัดหาสินค้ามาจำหน่าย
- จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวาน
- จำหน่ายปุ๋ยเคมีอินทรีย์
- จำหน่ายอาหารเม็ดโคขุน แพะ แกะ
- จำหน่ายอาหารข้นโคขุน
